วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

สมุนไพรจีน เกาหลี โสม


โสม (Ginsing)
เป็นสมุนไพรที่ใช้กันในแถบเอเชียมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว เดิมมีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออก
เฉียงเหนือของจีน เกาหลี และไซบีเรีย ในตำรับเภสัชของจีนได้กล่าวถึงสรรพคุณของรากโสม
ว่าช่วยทำให้อวัยวะภายในเป็นปกติ สงบ ไม่มีอารมณ์หวั่นไหว ฟุ้งซ่าน ทำให้สุขภาพดี ทำให้
ตาแจ่มใส จิตใจแช่มชื่น เพิ่มความฉลาด ในประเทศไทยมีผู้นิยมรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย
บำรุงกำลัง นับเป็นสมุนไพรที่มีราคาแพง
โสมที่มีการศึกษาวิจัยองค์ประกอบทางเคมี และนำมาใช้กัน มากที่สุดมี 2 ชนิด คือ โสมเอเชีย
ซึ่งนิยมเรียกว่า โสมจีน หรือโสมเกาหลีนั่นเอง และอีกชนิดคือโสมอเมริกัน โดยเฉพาะในประเทศจีน
ความต้องการของตลาดสูงมาก และมีการปลูกมาก เนื่องจากเชื่อว่าการเกิดโรคต่างๆ มีสาเหตุจาก
ความไม่สมดุลของของหยิน และหยาง และการใช้โสมสามารถปรับสมดุลร่างกายได้ ในประเทศจีน
มีการใช้โสมทั้ง 2 ชนิด สำหรับโสมอเมริกัน มีสมบัติเป็นยาเย็น (yin) และโสมจีนมีสมบัติเป็นหยาง
(yang) หรือยาร้อน ปกติโสมเป็นพืชที่เจริญเติบโตช้า มีความสูงของต้นเพียง 60-80 เซนติเมตร
เท่านั้น และต้องรอนานถึง 6 ปี จึงจะได้รากโสมที่มีสารสำคัญทางยาในปริมาณสูงสุด
สรรพคุณของโสม
จากการศึกษาวิจัยพบว่าโสมมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ที่สำคัญๆ ได้แก่
1) เพิ่มสมรรถนะในการทำงานของร่างกายให้สูงขึ้น เนื่องจากโสมมีสรรพคุณในการต้านความ
เมื่อยล้า (anti-fatigue effect) จากกลไกร่วมกันหลายอย่าง เช่น การเพิ่มการดูดซึมออกซิเจนของ
ผนังเซล เซลจึงสามารถสร้างพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นโสมยังช่วยปรับ
การเต้นของหัวใจ ให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น ร่างกายจึงเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงาน
มากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีสมรรถภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพ
ของผู้ป่วยในระหว่างพักฟื้น ให้หายเจ็บป่วย เป็นปกติได้เร็วขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื่อกันว่าโสมมี
สรรพคุณกระตุ้นสมรรถนะทางเพศ ทั้งนี้มีรายงานว่าโสมมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดด้วย
2) คุณสมบัติต่อต้านความเครียด (anti-stress effect) โดยจะช่วยปรับร่างกาย และจิตใจ ให้ทนต่อ
ความกดดันจากภายนอก โดยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่มีผลป้องกัน และลดความเครียดจากต่อม
ใต้สมอง และช่วยคลายความวิตกกังวล
3) กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง มีผลให้รู้สึกมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า โดยไม่ทำให้เกิดการอ่อนเพลี
หรืออ่อนล้าตามมา เหมือนยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ โดยพบว่าซาโปนินจาก
โสมเมื่อให้ในขนาดน้อยๆ จะมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่เมื่อให้ในขนาดสูงๆจะมีฤทธิ์
กดประสาท ดังนั้นควรรับประทานในขนาดที่พอเหมาะนะคะ มิเช่นนั้นอาจได้ผลตรงกันข้าม
4) เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบไม่เฉพาะเจาะจง มีรายงานว่า
เพิ่มเม็ดเลือดขาวบางชนิดจึงเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม
5) มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน มาควบคุมระดับน้ำตาล
ในเลือดให้เป็นปกติ
6) ชะลอความแก่ เนื่องจากโสมมีฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจนที่เกิดจากการทำลายไขมัน
(lipid oxidation) อนุมูลอิสระนี้มีอนุภาพทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เสื่อมสลายลงก่อนเวลาอันควร
ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลทำให้เกิด "ชราภาพ (aging)" เนื่องจากผลของโสมในการปรับสภาพร่างกาย
และจิตใจให้ทนต่อความกดดัน เชื่อว่าช่วยเสริมฤทธิ์กันทำให้โสมมีสรรพคุณ "ชะลอความชรา" ได้

แอล-อาร์จินีน
Arginine มีสูตรเคมี C6 H14 N4 O2 เป็นกรดอะมิโนชนิดเบส (basic amino acid) สามารถรับ
โปรตอนได้ที่ pH เป็นกลาง ใช้สังเคราะห์เป็นยูเรียได้
กรดอะมิโนและนิวคลีโอไทด์ เป็นสารตั้งต้นที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีน โดยจะถูกสร้างขึ้นในอัตรา
ที่น้อยมากให้เพียงพอกับความต้องการเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากกรณีของสารพวกคาร์โบฮัยเดรท
และไขมัน ซึ่งสามารถสังเคราะห์จนเกินพอ แล้วเก็บสะสมไว้ในร่างกายได้
ร่างกายเราสามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนได้ 10 ชนิด จากทั้งหมด 20 ชนิด กลุ่มที่สร้างได้เองนี้
จัดเรียกเป็นกรดอะมิโนไม่จำเป็น (non–essential amino acid) ส่วนอีก 10 ชนิดที่จำต้องได้รับจาก
อาหาร เรียกว่ากรดอะมิโนจำเป็น (essential amino acid) ได้แก่ Ile, Leu, Lys, Met, Phe, ThR,
Trp, Val, His และ Arg (อาร์จินีน) (แต่บางตำราจัดให้อาร์จินีน เป็นกรดอะมิโน ไม่จำเป็นก็มี)
บทบาท / กลไกการออกฤทธิ์
อาร์จินีน ใช้สร้างไนตริค ออกไซด์ (nitric oxide) โดยอาศัยการทำงานของเอนไซม์ nitric oxide
synthase ทำปฏิกิริยา deamination ผลของการเกิดไนตริค ออกไซด์ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
(vasodilate)
โดยเมื่อ acetyl choline ถูกหลั่งจากปลายเซลล์ประสาทมาที่ผนังหลอดเลือดจะกระตุ้นให้
endothelial cellsสร้างไนตริค ออกไซด์ จากกรดอะมิโนแอล อาร์จินีน (L–arginine) ซึ่งจะซึมผ่าน
ผนังเซลล์ออกมาที่เซลล์กล้ามเนื้อเรียบ ที่อยู่ใกล้เคียง แล้วแพร่ผ่านผนังเซลล์ของเซลล์กล้ามเนื้อ
เรียบเข้าไปจับกับอะตอมของเหล็กที่เอนไซม์ guanylyl cyclase ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อเรียบผลิต
cGMP สูงขึ้น นำไปสู่การคลายตัวของเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ มีผลให้หลอดเลือดขยายตัว
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า อาร์จินีนเป็นบ่อเกิดที่สำคัญของไนตริคออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวขยายหลอดเลือด
โดยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ guanylyl cyclase ในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ ทำให้มีระดับ
cGMP สูงขึ้น เกิดการคลายตัวของเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ ส่งผลให้หลอดเลือดขยายได้
อีกทั้งควบคุมการคืนตัว ใช้น้ำตาลในกระแสเลือด
เมื่อกล้ามเนื้อเรียบในหลอดเลือดขององคชาติคลายตัว ส่งผลให้หลอดเลือดขยาย
เลือดก็ไหลเวียนได้มากขึ้น เมื่อหลอดเลือดขยาย ผลตามมาคืออวัยวะพองขยาย และแข็งตัวขึ้น
ประโยชน์
อาร์จินีน จึงถูกใช้รักษาโรค ED (หย่อนสมรรถภาพทางเพศ) และยังช่วยลดความดันเลือด ได้อีกทาง
หนึ่งในแง่เปรียบเทียบกับยารักษา ED แอลอาร์จินีน เป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า จากการที่มันช่วยให้
หลอดเลือดในองคชาติผ่อนคลาย เกิดการแข็งตัวแบบธรรมชาติ
มีงานวิจัยที่มีอาร์จินีน, กิงโก, โสมเกาหลี, โสมอเมริกัน และไวตามินเกลือแร่ จากชาย 21 คน
ที่เป็น ED ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง พบว่า 88.9% มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้นานขึ้น
และ 78% รู้สึกได้ถึงผลของเพศสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
โคเลสเตอรอลนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด พบว่าอาร์จินีนมีแนวโน้มช่วยลดการจับตัวของ
เกล็ดเลือด และลดการไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด ดังนั้นจึงช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวเป็น
ลิ่มเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของหัวใจพิบัติ และหลอดเลือดในสมองแตก/ตีบ โดยขยายหลอดเลือด
และลดความดันเลือด อาร์จินีนจึงมีประโยชน์ ต่อผู้ที่โคเลสเตอรอลสูง เพราะเกล็ดเลือดของ
คนกลุ่มนี้จะข้นกว่าผู้ที่ระดับโคเลสเตอรอลปกติ

ไม่มีความคิดเห็น: